|
สระมรกต กระบี่ จังหวัดกระบี่
ป่าทุ่งเตียวและสระมรกตเที่ยวป่าที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยและสระมรกต กระบี่ป่าทุ่งเตียวเป็นส่วนหนึ่งของป่าเขานอจู้จี้ ซึ่งเป็นป่าดงดิบชื้นที่ราบต่ำแห่งสุดท้ายของไทย มีพืชพรรณและสัตว์บางชนิดที่มีในป่าประเภทนี้เท่านั้น ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม ที่นี่มีพรรณพืชและสัตว์ป่าขนาดเล็กมากมาย เฉพาะนกมีมากกว่า 318 ชนิด ประการสำคัญที่สุดคือเป็นแหล่งอาศัยสุดท้ายของนกแต้วแล้วท้องดำซึ่งใกล้สูญ พันธุ์ และเป็นสัตว์ที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก ภายในป่าทุ่งเตียวมีการจัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผ่านพื้นที่ส่วนหนึ่ง ของป่าที่ราบต่ำผืนนี้ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในป่าดงดิบชื้น ตั้งแต่ขนาดเล็กอย่างไลเคน มอส ไปจนถึงต้นเหรียงขนาดใหญ่ สูง 30 ม. แล้สัตว์ที่หาชมได้ยากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สวยงามมากคือสระมรกต 
สระมรกต กระบี่ จังหวัดกระบี่
ที่ตั้งป่าทุ่งเตียวและสระมรกตบ้านนางเดียว ต. คลองท่อมเหนือ อ. คลองท่อม จ.กระบี่รถยนต์ส่วนตัวป่าทุ่งเตียวและสระมรกตจาก อ. คลองท่อม ใช้ทางหลวงหมายเลข 4038 ไป 300 ม. พบสามแยกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 7 กม.ผ่านทางแยกเข้าน้ำตกร้อนฯ ไปประมาณ 1.5 กม. พบสามแยกให้เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 7 กม. พบทางแยกซ้ายมือให้เลี้ยวเข้าไปอีกเล็กน้อย ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมรถประจำทางป่าทุ่งเตียวและสระมรกตขึ้นรถสายกระบี่-สระมรกตสิ่งที่น่าสนใจป่าทุ่งเตียวและสระมรกตเส้นทางศึกษาธรรมชาติทีนา โจลิฟฟ์ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่นางทีนา โจลิฟฟ์ นักอนุรักษ์ป่าเขตร้อน ชาวอังกฤษ ที่ได้ช่วยเหลือด้านเงินทุนและให้การสนับสนุนในการก่อตั้งเขตรักษาพันธุ์ฯ แห่งนี้ตลอดเส้นทาง 2.7 กม. นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติในป่าดงดิบชื้นที่ราบต่ำ ซึ่งเป็นป่าดงดิบที่อยู่ในระดับไม่เกิน 200 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และผ่านป่าพรุที่มีทิวทัศน์สวยงามไปตามสะพานไม้ยาวประมาณ 1.4 กม. มีพืชพันธุ์หลากหลายชนิด และหากโชคดีก็อาจพบสัตว์เล็กๆ เช่นกระรอกปลายหางดำ กิ้งก่าดิน และนกต่างๆ มีป้ายสื่อความหมาย ป้ายชื่อพันธุ์ไม้ และป้ายบอกทางทุกๆ 20 ม. ช่วยให้เดินได้ง่ายโดยไม่ต้องมีคนนำทาง ใช้เวลาเดินประมาณ 1-3 ชม. ทางจะไปสิ้นสุดที่สระมรกตสระมรกตเป็นสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ รูปเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 25 ม. ยาว 20 ม. ลึก 1.5-2 ม. น้ำใสจนมองเห็นพื้นหินด้านล่างซึ่งมีสีเขียวมรกตอันเป็นที่มาของชื่อสถานที่ ในสระไม่มีปลา สัตว์น้ำ หรือพืชแต่อย่างใด เพราะสายน้ำที่ไหลมาลงสระตลอดปีเป็นน้ำกระด้าง ซึ่งมีผลต่อการละลายของเกลือ ทำให้สารแขวนลอยต่างๆ ตกตะกอนอย่างรวดเร็ว และยับยังการเจริญเติบโตของพืชน้ำด้วย รอบสระเป็นลานหินเปิดโล่งมีต้นชมพู่น้ำให้ร่มเงา และมีศาลาให้นั่งพักข้างๆ สระ ด้วยลักษณะของสระที่เหมือนมีใครจงใจมาสร้างไว้กลางป่า น้ำใสสะอาด ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวต่างหมาย มาชม เมื่อมาถึงแล้วก็มักจะอดไม่ได้ที่จะลงแหวกว่ายหรือเล่นน้ำให้ชื่นใจ
| ||||
