แอ่วเชียงใหม่เคาะประตูบ้านม้ง
ลมร้อนแห่งเดือนเมษายนมาเยือน
อากาศร้อนกับอากาศหนาวสลับสับเปลี่ยนจนหลงฤดู
ทุกวันนี้หลายคนไม่กล้าคาดเดาสภาพดินฟ้าอากาศ แดดจ้าเหมือนไม่มีฝนตก
แต่กลับมีฝนตกหนักแบบไม่ลืมหูลืมตา
บนพื้นผิวโลกใบนี้เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติ ภัยพิบัติต่างๆ
เริ่มย่างกลายเข้ามาเยือนจนมนุษย์อย่างเราไม่สามารถตั้งรับได้ทัน
หลายจังหวัดในพื้นที่ของภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม
ส่วนทางภาคเหนือก็ต้องคอยเฝ้าระวังดินถล่ม ดินสไลด์ตามแนวชายเขา
ส่วนอีสานก็ร้อนแห้งแล้งจนขาดน้ำ เอาแน่อะไรไม่ได้กับบนโลกใบนี้
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้อยู่กับสติ
สิ่งสำคัญเสาะแสวงหาความสุขในแบบฉบับของตนเองอยู่บนพื้นฐานที่ไม่ทำให้ผู้
อื่นเดือดร้อน

แสงแดดร้อนที่แผดเผากับอากาศที่ร้อนระอุ...ทำให้ต้องออกเดินทางค้นหา
ธรรมชาติ เพื่อคลายความร้อน มองหาร่มรื่น..ความเย็นจากธรรมชาติ
ความร่มรื่นของแมกไม้ที่เขียวขจี
และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายผิดแผกจากชีวิตคนเมือง ผู้เขียนมุ่งหน้าสู่
หมู่บ้านขาวเขา ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันถึง 6 เผ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
ซึ่งอาจจะมองดูว่าเป็นการจัดการเชิงธุรกิจไปสักหน่อย
เนื่องจากเก็บค่าเข้าชมหมู่บ้านรายละ 500 บาท
ไม่ว่าคนไทยหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งคิดดูแล้วแพง
ด้วยความที่ผู้เขียนมีสายเลือดของสื่อมวลชน
ทำให้ต้องได้มาของคำตอบเพื่อคลายความแคลงใจว่า 500 บาท
มีการแบ่งสรรปันส่วนกันอย่างไร? คำตอบที่ได้รับ คือ
เงินส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือชาวเขาเหล่านี้เดือนละ 1,500 บาท ต่อครัวเรือน
แต่มองดูจากการเข้าชมของนักท่องเที่ยวแล้วแต่ละครัวเรือนหน้าจะได้มากกว่า
นี้

เดินผ่านเข้ามาด้านในพบกับบ้านที่ปลูกด้วยไม้และมุงหลังคาด้วยใบไม้ตาม
ธรรมชาติ โดยมีการจัดแบ่งพื้นที่บ้านแต่ล่ะชนเผ่าไว้
ภายในหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปาใช้ มีทุ่งนาข้าวที่เขียวขจี
มีควายที่เลี้ยงไว้ใช้งาน มองแล้วเพลินตา ผสมกับลมพัดเย็น ๆ
มาจากชายทุ่งนาจนทำให้รู้สึกเย็นสบาย ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของผู้เขียน
ทำให้ต้องเดินสำรวจถึงก้นครัว ดูสภาพความเป็นอยู่ชีวิตจริง ๆ
ที่ปราศจากการปรุงแต่ง
ได้นั่งคุยกับคุณยายแก่ ๆ
ได้รับการแบ่งปันขนมและอาหารแล้วรู้สึกมีความสุข
ผู้เขียนใช้เวลาอยู่ในหมู่บ้านม้งอยู่ครึ่งวัน เพราะขึ้นบ้านชาวเขาเผ่าต่าง
ๆ เกือบจะทุกหลังคาเรือน ได้นั่งดูการทอผ้า
ได้ลองทอผ้าก็ทำให้เกิดความสนุก ได้พูดคุยกับเด็ก ๆ ทุกคนที่นี่อัธยาศัยดี
ใจดีเล่นกีตาร์ที่พวกเค้าประดิษฐ์ขึ้นเองจากไม้สักและให้เราได้ลองเล่นด้วย
เดินชมวิวไปเรื่อยจะมีบ้านแต่ละหลัง
มีงานฝีมือของพวกเค้าไว้ขายให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชม ทั้งผ้าทอ
เครื่องประดับงานไม้ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะเป็นคนทำ
ส่วนผู้หญิงจะมีหน้าที่นั่งขาย มีเล้าหมูป่าที่เลี้ยงไว้
มีโขลงช้างที่ไว้ใช้งาน
งานฝีมือส่วนใหญ่แล้วจะเป็นงานปักตามลายที่ได้รับสืบทอดทางวัฒนธรรมของแต่ละ
ชนเผาที่แตกต่างกันออกไป แต่ล่ะผืนใช้เวลาเป็นปี
สนนราคาก็ต้องแพงตามระยะเวลาที่ทำ
ใครที่มีวันว่างขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ ลองหาโอกาสแวะมาที่หมู่บ้านม้ง
อ.แม่ริม ดูนะคะ
จะได้ความงดงามทางธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สวยงามหรือไม่นั้นขึ้นกับมุมมอง
ของผู้ไปเยือนคะว่าจะมองในแง่มุมไหนให้สวยงาม
๐ ว้าวว!! ทริปนี้ชวนแอ่วเหนือ สัมผัสธรรมชาติอันงดงาม สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอด